Tuesday, August 28, 2012

ทานย่านางก่อนอาหารทำให้ท้องอืดหรือไม่

สอบถามน้องเกด (ที่ปรึกษาด้านแพทย์แผนไทยของ MarryBeam ค่ะ) เกี่ยวกับการทานย่านางก่อนอาหารทำให้ท้องอืดหรือไม่ น้องให้คำตอบมาอย่างนี้นะคะ

ย่านาง ทานก่อนอาหาร แล้วท้องอืด.....จากที่เกดดูก็ไม่พบรายงานว่ามีผลต่อการย่อยอาหาร หรือ ทำให้ท้องอืดเฟ้อน่ะค่ะ แต่เท่าที่คิดดูถ้าใช้ไปในระยะนานๆเกิน 1 เดือน อาจจะมีผลต่อกลไกการหลั่งน้ำดีในตับ ที่ช่วยย่อยอาหารได้ เพราะเป็นสมุนไพรรสเย็น ทานนานๆมีผลต่อตับได้ค่ะ เดียวเกดขอค้นเกี่ยวกับกลไกการทำงานของตับ กับสมุนไพรรสเย็นให้ละเอียดอีกทีหนึ่งน่ะค่ะ เพื่อความชัวร์ ค่ะ

**********************

ถ้าบีมได้ข้อมูลอัพเดทจากน้องเพิ่มเติม จะมาเขียนเพิ่มให้นะคะ

ตอบเรื่องสิวฮอร์โมนโดยย่อ

มีเพื่อน ๆ จาก Fanpage สอบถามเข้ามาเกี่ยวกับสิวฮอร์โมนค่ะ ขออนุญาตโพสต์รูปเลยนะคะ



บีมตอบ...

เบื้องต้นใช้กระบวนการเดียวกันหมดเลยนะคะ คือ คนเป็นสิวสมัยนี้จะมีสาเหตุไม่แตกต่างไปจากโรคฮิตอื่น ๆ มากนักค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอก มะเร็ง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ สืบสาวแล้วก็มีสาเหตุอย่างเดียวกันค่ะ

ส่วนใหญ่คนที่มีปัญหาสิวฮอร์โมนที่ใช่ฮอร์โมนจริง ๆ บีมว่าจะเป็นโรคอะไรที่เกี่ยวกับมดลูกโดยตรงมากกว่าค่ะ เช่น PCOS เนื้องอกในรังไข่หรือมดลูก แบบนั้น

หรือเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายเช่น การตั้งครรภ์ การเติบโตเป็นวัยรุ่นค่ะ

แต่สิวฮอร์โมนประเภทอื่น ๆ มักจะเกิดจากการทานอาหารที่มีฮอร์โมนเร่งโตเช่น เนื้อสัตว์เลี้ยงระบบอุตสาหกรรมเพื่อให้โตเร็ว ผักผลไม้ที่ฉีดฮอร์โมนเพื่อให้ออกผลได้ทั้งปีหรือให้ได้เยอะ ๆ จะได้ขายได้เยอะ เป็นต้นค่ะ

และยังมีฮอร์โมนที่เกิดจากการทานฮอร์โมนเพิ่มของเราเองด้วยค่ะ คือ ฮอร์โมนจากยาคุม เป็นต้นค่ะ

ดังนั้น บีมมองว่าการถูกวินิจฉัยหรือเราเชื่อว่าเราเป็นสิวฮอร์โมน ก็ต้องมาตรวจสอบดูสาเหตุค่ะ ซึ่งวิธีการที่บีมนำเสนอคือ การปรับสุขภาพพื้นฐานให้ตรงกับธรรมชาติของร่างกายให้มากที่สุดก่อนค่ะ แล้วหลังจากนั้นเราจะค่อย ๆ เริ่มคัดกรองได้ว่า ปัญหาที่เหลือ (ที่สิวเหลือนั้น) เกิดจากอะไรได้บ้างค่ะ จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการตรวจรักษาโรคต่างๆ ไปได้เยอะเลยค่ะ

บีม

วิธีการทานชามะตูม

บีมถามน้องเกดไปถึงวิธีทานชามะตูมค่ะ เพราะน้องเขาเลือกมาให้ตอนไปซื้อสมุนไพรด้วยกัน แต่บีมดันลืมว่ามันกินยังไง

บีมถาม เวลาที่ทานชามะตูมนะคะ ทานตอนท้องว่างได้มั้ยเอ่ย และต้องทานนานเท่าไหร่ หรือทานได้ตลอดทุกวันคะ ทานได้วันละกี่ซอง/กี่ครั้ง


น้องเกดตอบ
ชามะตูม...ทานตอนท้องว่างได้ค่ะ ทานได้ทุกวัน ไม่มีผลข้างเคียงค่ะ (ไม่พบรายงานว่ามีผลข้างเคียง)
- รับประทาน ไม่มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนค่ะ แต่สามารถทานระหว่างวันขณะที่รู้สึกอ่อนเพลีย ดื่มได้ตลอดทั้งวัน หรือ 2 เวลา หลังอาหาร เช้า - เย็น ก็ได้ค่ะ 
- ขนาดรับประทาน 1 ซอง เติมน้ำร้อน 1 แก้ว (ใน 1 ซองเล็ก สามารถเติมน้ำร้อนได้อีกจนสีของน้ำมะตูมและรสชาติจางลง)

*************************************************

Monday, August 13, 2012

สาเหตุพื้นฐานของการเป็นสิวของคนในยุคปัจจุบัน (จากเคสปรึกษาจริง)

นี่เป็นอีเมลที่บีมตอบเมื่อเช้านี้ค่ะ และบีมคิดว่าสิ่งที่บีมเขียนตอบนั้นมีประโยชน์ต่อผู้เป็นสิวคนอื่นๆ ด้วยค่ะ เลยเอามาลง แต่บีมได้ลบอีเมลของผู้ติดต่อและชื่อของเขาออกไปแล้วนะคะ เพราะมีนโยบายรักษาความลับของผู้มาติดต่อค่ะ

จริง ๆ แล้วน้องเขาได้ส่งรูปกับข้อมูลตามแบบฟอร์มฉบับเต็มมาให้นะคะ แต่บีมขออนุญาตไม่เผยแพร่ค่ะ เพราะยังไม่ได้ขอเจ้าตัวและเป็นส่วนที่ต้องเก็บเป็นความลับด้วยค่ะ

ส่วนที่เผยแพร่ได้ก็จะเป็นด้านล่างนี้เท่านั้นนะคะ...

ลักษณะเด่นของเคสนี้

  • ทำงานเป็นกะ นาฬิกาชีวิตไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
  • ครอบครัวมีประวัติเป็นสิว บางท่านมีไขมันในเลือดสูง
  • อาหารที่ชอบทานเป็นหลักของอาการสิว
  • วิธีการรักษาด้วยยาทานก่อสิวเรื้อรัง
  • ทายาที่น่าจะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์และเคยฉีดสิว
  • ใช้ครีมหน้าขาว
คือเป็นเบสิคที่คนเป็นสิวส่วนใหญ่จะเป็นค่ะ และบีมเขียนตอบค่อนข้างละเอียดเลย ติดตามอ่านด้านล่างนี้นะคะ

2012/7/6 
-------- ข้อความเดิม --------
เรื่อง: ปรึกษาปัญหาสิวหน่อยค่ะ
จาก:
ถึง: info.marrybeam@hotmail.com
สำเนาถึง:

สวัสดีค่ะพี่บีม หนูได้ติดตามการดูแลตนเองโดยวิธีธรรมชาติมาสักระยะแล้วค่ะแต่ยังไม่เคยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของmarry beam สักที
ก่อนหน้านี้หน้าของหนูไม่ค่อยมีสิวสักเท่าไหร่ (มีผื่นสิวบ้างบริเวณหัวคิ้วและสิวขึ้นเวลามีประจำเดือนค่ะ)  แต่หลังจากไปใช้ครีมหน้าขาวเด้งที่มีคนแนะนำมาจากทางเน็ต. พอใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือนหน้าขาวมาก (จนมีคนทัก)  แต่หลังจากใช้ชุดที่3 หน้าเริ่มเป็นผื่นแดง และคันค่ะ ก้อเลยหยุดใช้ครีมและรู้ว่าแพ้แน่นอน ตอนนั้นเริ่มมีสิวอักเสบขึ้นบริเวณหัวคิ้ว แก้ม และคางค่ะ ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้ครีมอะไรแล้วค่ะ ทาแต่ครีมว่านหางจรเข้ และล้างหน้าโดยใช้เจลจากเวชสำอาง ผิวหน้าดีขึ้นบ้าง แต่หน้ายังคงเป็นผื่นอยู่แต่ไม่ค่อยคัน จะมีคันบ้างเวลาร้อนมากๆ และมีสิวอักเสบบริเวณหัวคิ้ว คางและแก้มค่ะ. รวมทัังมีรอยแผลเป็นจากสิวอักเสบที่ขึ้น และมีสิวอุดตันด้วย หลังจากแพ้ครั้งนี้ยิ่งใช้ครีมอะไรก้อเหมือนผื่นที่หน้ายิ่งเห่อมากขึ้น. ทำให้รู้สึกว่าตัวเองแพ้ครีมไปทุกตัวเลยค่ะ
ตอนนี้หนูกลุ้มใจมากเลยค่ะ เวลาไปทำงานหรือไปข้างนทกไม่มั่นใจตนเองเลยค่ะ
สิ่งที่อยากให้พี่บีมช่วยคือ
1.หนูต้องเริ่มปฏิบัติตนอย่างไรคะให้เหมาะสมกับอาการที่เป็นอยู่
2.อยากให้พี่แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้ด้วยค่ะ

หนูอยากมีผิวหน้าที่สุขภาพดีและใสแบบพี่ๆโดยที่ไม่ต้องแต่งหน้าปกปิดจัง

ขอบคุณพี่บีมมากนะคะที่เห็นความสำคัญของปัญหาหาของหนู

ปล.หนูทำงานพยาบาลค่ะนอนไม่เป็นเวลา และมีปัญหาเรื่องท้องผูกด้วยค่ะ.


ขออภัยที่พี่มาตอบค่อนข้างช้านะคะ เพราะงานค่อนข้างเยอะเลยค่ะ พี่ทำไม่ทันจริง ๆ จริง ๆ หนูอยู่ในคิวพี่นกค่ะ แต่ช่วงหลังนี้พี่นกมีสิ่งที่จะต้องทำค่อนข้างมากค่ะ และสุขภาพไม่ค่อยดี พี่นกเลยจะตอบอีเมลได้สัปดาห์ละ 1-2 อีเมลเฉพาะเสาร์อาทิตย์ค่ะ ในส่วนที่น้อง ๆ มาปรึกษาเราจึงตอบกันช้าค่ะ แต่ตอนนี้กำลังปรับปรุงระบบงานค่ะ วันหยุดนี้พี่ได้เคลียร์งานและตั้งใจจะเคลียร์ทุกเคสให้หมดก่อนวันที่ 15 เพราะพี่จะเริ่มเขียนหนังสือแล้วค่ะ พี่เลยขอพี่นกมาทำเคสของหนู จะได้เสร็จเร็วขึ้นค่ะ

จากที่พี่อ่านข้อมูลหนูและดูรูปนะคะ พี่ว่าปัญหาสิวของหนูมาจากอาหารการกินของหนูก่อนค่ะ เพราะครอบครัวมีประวัติเป็นสิวและคุณแม่ก็เป็นไขมันในเลือดสูงค่ะ ซึ่งทั้งสิวและไขมันในเลือดสูงเป็นเรื่องเดียวกันค่ะ แต่แค่แสดงอาการคนละแบบ ส่วนใหญ่คนเป็นสิวในวัยรุ่นนี้จะมี 2 สาเหตุนะคะ
  1. โภชนาการของครอบครัว คือ คุณแม่และครอบครัวของเราทานอย่างไร เราก็มีแนวโน้มจะชอบทานแบบนั้นเป็นประจำค่ะ
  2. รหัสพันธุกรรมของเรามีแนวโน้มที่จะแพ้ง่าย และเกิดอาการขับพิษออกทางผิวหนังมากกว่าคนอื่น ๆ 
ถ้าหนูศึกษาแนวทางของพี่บ้างแล้ว ก็คงจะทราบว่าสิ่งที่หนูชอบทานหรือทานมาตลอดต่อไปนี้เป็นสาเหตุของความเสื่อมของสุขภาพและสิวนะคะ
  1. นมวัวที่พึ่งเลิกทานไป (ตัวนี้ทำให้เป็นผื่นแพ้ผิวหนังและเป็นสาเหตุของโรคทางเดินอาหารมากมายค่ะ) อ่านเล่มนี้นะคะ นมมัจจุราชเงียบ แล้วหนูจะเข้าใจทุกอย่างค่ะ
  2. ขนมปังและของที่มีรสหวาน (สองตัวนี้เมื่อทานแล้วจะให้น้ำตาลกลูโคสค่ะ ที่คนติดหวานหรือติดแป้งนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะติดน้ำตาลค่ะ อาการจะคล้ายกับติดแอลกอฮอล์ค่ะ มันจะเป็นวงจรที่ทำให้ร่างกายกระหายที่จะทาน ไม่ได้ทานจะกระวนกระวาย พี่เคยเป็นค่ะ เมื่อก่อนพี่กินเบเกอรี่ทุกวัน มันจะอยากแป้ง ๆ ตลอดค่ะ แต่พอเลิกได้และเข้าใจกระบวนการของมันที่ทำให้เราติด ทำให้พี่เข้าใจว่านั่นคือการติดหวานค่ะซึ่งเลิกได้จริงค่ะ และอาการติดหวานส่งสัญญาณที่ไม่ดีออกมาตั้งแต่เริ่มเลยค่ะ หนูอ่านเพิ่มเติมที่นี่นะคะ  http://bye-bye2acne.blogspot.com/2009/08/1.html)
  3. ขนมปังยังมีกลูเทนที่เป็นตัวหลักที่คนเป็นสิวทั่วโลกแพ้ค่ะ ถ้าไปดูอาหารฝรั่งที่ Tops พารากอน ถ้าเป็นอาหารสุขภาพ เขาจะเขียนค่ะว่า Gluten Free คือ คนแพ้กลูเทนเยอะค่ะ และส่วนผสมหลายอย่างในขนมปังทำให้เราแพ้ค่ะ หนูลองสังเกตนะคะ ถ้ากินขนมปัง ในวันนั้นหรือ 1 วันถัดไป สิวหัวขาวจะขึ้นมาค่ะ หรือหนูจะมีอาการคันสิวหรือสิวขึ้นเพิ่มในวันนั้นเลยค่ะ คือ มันจะทำให้ผิวแย่ลงทานหวานก็เหมือนกันค่ะ การทานหวานทำให้ร่างกายอักเสบค่ะ ทำให้สิวอักเสบด้วยค่ะ
  4. เนื้อสัตว์ เป็นของที่ไม่เหมาะกับร่างกายมนุษย์ค่ะ ย่อยยาก และตกค้างในร่างกายมากค่ะ ยิ่งหนูนอนไม่เป็นเวลา ข้างในรวนค่ะ ตับหนูจะอ่อนแอลง นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หนูปวดประจำเดือนมาก ๆ ด้วยค่ะ ทางแพทย์แผนจีนมันสัมพันธ์กันค่ะ ตับกับเลือดเนี่ยค่ะ และถ้าตับเสื่อมมาก ๆ เขาจะไปดึงพลังงานจากไตค่ะ ถ้าไตเริ่มเสื่อม ผมจะเริ่มหงอกทีละหลายเส้นเลยค่ะ ทุกคนที่ทำงานเป็นกะเช่นพยาบาล หรือแอร์โฮสเตสหรือคนที่เดินทางบ่อยจะมีปัญหาสุขภาพมากกว่าคนอื่นหลายเท่าค่ะ เพราะนาฬิกาชีวิตแปรปรวนค่ะ ซึ่งการแสดงออกไม่เหมือนกันค่ะ ของหนูถ้ายังไม่เริ่มดูแลตัวเอง หนูจะเป็นสิวหนักขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ เพราะหนูมีพันธุกรรมที่ผิวจะขับพิษออกมามากกว่าคนอื่นค่ะ ซึ่งเพื่อนคนอื่นที่ยังหน้าใสเขามีปัญหาแน่นอนค่ะ เพราะนาฬิกาชีวิตแปรปรวนเช่นกัน แต่ไม่มีอาการแสดงออกค่ะ กลุ่มนี้จะประมาทกว่าค่ะ และถ้าเป็นก็เป็นเยอะเลยค่ะ หนูอ่านบทความนี้ก็แล้วกันนะคะ  http://bye-bye2acne.blogspot.com/2011/10/blog-post_5741.html
สาเหตุแรกผ่านไปนะคะ คือ อาหาร

สาเหตุที่ 2 คือ การทำงานของหนูขัดกับนาฬิกาชีวิต ซึ่งพี่เข้าใจว่าตรงนี้เป็นงานที่หนูต้องทำและอาจยังคงเปลี่ยนไม่ได้ทันใจค่ะ แต่ถ้าหนูเลือกที่จะทำงานนี้ต่อไป หนูต้องเข้าใจว่าตัวหนูต้องดูแลเรื่องอาหารและอื่น ๆ ดีกว่าคนอื่นที่เขาทำงานไม่เป็นกะหลายเท่าตัวค่ะ หนูต้องจริงจังกว่าคนอื่นและใส่ความพยายามมากกว่าคนอื่น ๆ ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของการรักษาตัวเองค่ะ พี่ไม่แน่ใจว่าหนูจะมีวันหยุดยาวเหมือนอย่างแอร์ฯเขารึเปล่าค่ะ ถ้ามีจะดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะคนทำอาชีพแบบหนูต้องอาศัยช่วงหยุดยาวในการล้างพิษใหญ่ค่ะ อย่างน้อยต้องปีละ 2 ครั้ง ใช้เวลาครั้งละประมาณ 7 วันค่ะ 

สาเหตุที่ 3 คือ การรักษาที่มีการใช้ยาทาผื่นแพ้ (มักจะเป็นยาประเภทสเตียรอยด์ค่ะ) และการทานยาแก้อักเสบรักษาสิว 2 ตัวนี้มีผลในการกดภูมิคุ้มกันของร่างกายค่ะ พี่ได้ข้อมูลจากการสอบถามนักวิจัยของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่งค่ะ ว่าเจ้าสเตียรอยด์เนี่ยซึมเข้าเส้นเลือดและไปทำร้ายตับได้ค่ะ ปกติเขาจะไม่ให้ทานานค่ะ หนูอาจจะทาไม่นาน นั่นก็เป็นสิ่งดีค่ะ แต่ถ้านานทั้งผิวและตับจะอ่อนแอลงแน่นอนค่ะ เพราะเขาไปกดภูมิคุ้มกันผิวค่ะ ใครเคยใช้จะทำให้ผิวอ่อนแอลงระดับหนึ่งค่ะ ส่วนการทานยาแก้อักเสบยิ่งกดภูมิคุ้มกันและทำร้ายตับมากกว่าที่ทาหลายเท่านักค่ะ เพราะไปฆ่าแบคทีเรียชนิดดีหมดเลยค่ะ ทำให้หนูท้องผูกด้วยนั่นล่ะจ๊ะ 

พี่ขอให้หนูศึกษาบทความต่อไปนี้นะคะ หนูจะเข้าใจปัญหาที่ตัวเองเป็นมากขึ้นค่ะ
สาเหตุที่ 4 หนูทานอาหารนอกบ้านและอาหารสำเร็จรูปเยอะมากค่ะ มีข้อยืนยันจากเครือข่าย MB แน่ชัดว่า อาหารผ่านเตาไมโครเวฟทุกอย่างทำให้เซลล์เสื่อมและมีอาการท้องผูก ท้องอืดได้ค่ะ ยิ่งหนูมีน้ำย่อยจากตับและตับอ่อนมาน้อยเพราะนาฬิกาชีวิตแปรปรวน ทานพวกนี้ยิ่งทำให้ระบบลำไส้แย่เลยค่ะ ถ้าอาหารไม่ดี ร่างกายก็ไม่ดีค่ะ เป็นกฎธรรมชาติ ส่วนอาหารที่เขาทำขายกัน ถ้าไม่ใช่ร้านที่ทำเพื่อสุขภาพจริง ๆ เขาจะต้องคิดเรื่องประหยัดต้นทุนค่ะ น้ำมันคงใช้น้ำมันปาล์มค่ะ เพราะถูกสุดเลย และน้ำมันนี้เหนียวหนืดค่ะ หนูเคยเห็นคราบดำ ๆ ที่ติดข้างฝาที่เขาทำกับข้าวมั้ยคะ นั่นแหละ มันติดอยู่ในท้องหนูนั่นล่ะค่ะ ยิ่งถ้าหนูดื่มน้ำเย็นด้วย ไขมันจะแข็งติดเลยค่ะ เป็นไข ๆ เลย (ข้อมูลจากพี่นก ที่ปรึกษาอีกท่านค่ะ) และน้ำมันก็ต้องเอามาทอดซ้ำจนกว่าจะดำนั่นล่ะค่ะเขาถึงเปลี่ยน กระทะที่เขาใช้หนูว่ามันจะสะอาดดีไหมคะ คือ พี่นกเขาทำงานในกรุงเทพฯ อยู่อพาร์ทเม้นต์ ซึ่งเขาก็ซื้อข้างนอกมาตลอดค่ะ แต่พึ่งเปลี่ยนมาทำกินเองโดยใช้กระทะไฟฟ้าค่ะ ระบบขับถ่ายเขาดีขึ้นมาก ๆ เลยนะคะ ยังไงลองเข้าไปดูข้อมูลของพี่นกได้ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/nokspimples คุยกับพี่เขาได้ค่ะ สรุปว่ามือใครทำไม่น่าไว้ใจเท่ามือเราเองน่ะค่ะ เพราะเรารู้เราใส่อะไรบ้างเนอะ แต่ถ้าจำเป็นต้องทานข้างนอกจริงๆ หนูต้องคัดสรรเมนูและร้านอย่างดีค่ะ อย่างที่พี่บอกค่ะ สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเองนะคะ หนูจะฝากชีวิตไว้กับคนอื่นต่อไปหรือจะเริ่มทำเอง หนูเลือกได้ค่ะ ถ้าเราตั้งใจจริง เราจะเจอทางออกเองค่ะ (ไม่เป็นห่วงไม่พูดขนาดนี้นะคะเนี่ย พี่ห่วงสุขภาพหนูระยะยาวมากกว่าสิวอีกค่ะถ้าหนูยังทานแบบนี้ต่อไปนะคะ เพราะหนูทำงานพยาบาล เวลาพัก เวลากินไม่เหมือนคนอื่น สุขภาพจะเสื่อมเร็วค่ะ งานนี้เป็นงานที่ดีนะคะ ได้ช่วยเหลือคน แต่เราก็ต้องแข็งแรงกว่าคนอื่นที่เราช่วยด้วยนะคะ เราจึงจะช่วยคนได้มากกว่าเดิมค่ะ)

สาเหตุที่ 5 หนูใช้ครีมหน้าขาวค่ะ พี่มีความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรงของตัวเองค่ะ ซึ่งล่าสุดพี่มีชุดผลิตภัณฑ์ PRETTYS สำหรับรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำและทำให้หน้าใสค่ะ แต่ขายไปสักพัก พี่ได้เรียนรู้ว่าคนเป็นสิวห้ามใช้ชุดนี้เลย เพราะจากบทความที่เกี่ยวกับน้ำตาลในเลือดแกว่ง http://bye-bye2acne.blogspot.com/2009/08/1.html หนูจะทราบว่าคนเป็นสิวมีอัตราการสร้างเซลล์ที่ผิดปกติจากคนอื่นอยู่แล้วแถมมีความมันพ่วงมาอีกค่ะ ไม่เหมือนผิวคนไม่เป็นสิว ดังนั้น การใช้ครีมเพื่อหน้าใสจะดีแค่ตอนแรก แต่พอสักพักผิวจะผลัดมากกว่าปกติ ที่หมองคล้ำเพราะเซลล์มันผลัดออกมาเยอะและเป็นเซลล์ตายกองทับถมค่ะ หนูลองอ่านที่หน้าเพจ www.facebook.com/marrybeam นะคะ พี่เขียนเช้านี้เองค่ะ ที่พี่พึ่งจะแก้ปัญหาให้น้องสาวแท้ ๆ ไปเองค่ะ ก็มีปัญหาคล้ายหนูนี่แหละ เพียงแต่ครีมที่หนูใช้ถ้ามันมีสเตียรอยด์หรือปรอทจะใช้เวลามากกว่าค่ะ ชุด PRETTYS พี่ไม่มีค่ะ เลยแก้ได้เร็ว 2 วันก็ดีขึ้นแล้วค่ะ

สาเหตุที่ 7 เคยฉีดยารักษาสิว ถ้าฉีดเพื่อให้ยุบก็เป็นสเตียรอยด์ค่ะ ก็เข้าเหตุเรื่องสเตียรอยด์ กลับไปอ่านข้อ 3 นะคะ ผิวลักษณะนี้จะอ่อนแอค่ะ เวลาล้างพิษผิวจะมีสิวขึ้นบริเวณที่เคยฉีดค่ะ เพราะการรักษาผิวด้วยวิธีของพี่จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ เมื่อแข็งแรงขึ้นเขาจะขับเอาพิษตกค้างออกไปค่ะ ก็จะออกมารูปแบบสิว ของหนูถ้าเคยใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์และปรอทมาก่อน มันจะขึ้นมาคล้าย ๆ ผื่นเล็ก ๆ แดง ๆ ค่ะ และมักจะขึ้นทั่วหน้าค่ะ อาจจะมีอาการคัน ๆ ค่ะ แต่ถ้าได้ดูแลตัวเองดี ๆ ต่อเนื่องจนระยะขับพิษหมด มันจะหายไปเองและหนูจะได้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้นมาแทนค่ะ (ผิวที่ดีมาจากอาหาร ออกซิเจนที่มากเพียงพอและระบบเลือดลมที่ดีจากภายในค่ะ เพราะระบบเลือดลมนั้นเป็นส่วนที่จะลำเลียงสารอาหารและพลังงานไปสู่เซลล์ค่ะ เซลล์ผิวอยู่ไกลที่สุด จึงต้องใช้พลังส่งเยอะค่ะ ถ้าใครเลือดลมน้อย อาหารไปไม่ถึงเซลล์ค่ะ เซลล์จะเหี่ยวแห้ง ขาดอาหาร ขาดน้ำ ขาดพลังงาน และพิษสะสมตกค้างที่ผิวเยอะค่ะ เป็นผลให้ผิวหมอง ผมร่วง เล็บฉีก เป็นต้นค่ะ) 

พี่ว่าพี่น่าจะเขียนครบแล้วนะจ๊ะสำหรับสาเหตุสิวและผิวแพ้ง่ายของหนู ปกติพี่จะค่อนข้างเอาใจช่วยเคสที่เป็นนางพยาบาลหรือคนเป็นกะมากกว่าใครเลยค่ะ เพราะเป็นเคสที่ต้องดูแลเรื่องสุขภาพให้ดีกว่าคนอื่น ๆ หลายเท่าเลย เนื่องจากนาฬิกาชีวิตไม่เหมือนคนอื่น ๆ และขัดกับธรรมชาติค่ะ

แต่พี่จะบอกเคล็ดลับให้อีกอย่างนะคะ

ถ้าหนูเชื่อในกฎแห่งกรรมนะคะ สิ่งที่หนูได้ช่วยเหลือผู้คนให้มีสุขภาพที่ดีจะสั่งสมเป็นกรรมดีที่มีพลังในตัวหนูค่ะ หนูแค่ต้องหาเวลาสัก 5-10 นาทีก่อนนอนในการระลึกถึงความรักในงานของตัวเอง เวลาทำงานให้ใช้ใจทำให้มากที่สุดค่ะ ซึมซาบถึงความทุกข์ของพวกเขา รอยยิ้มของพวกเขาเวลาที่หนูได้ช่วยเหลือ หนูมีโอกาสดีที่งานให้โอกาสหนูช่วยเหลือคนนะคะ...

พอหนูระลึกได้แล้ว หนูรู้สึกถึงพลังบวกมากมายที่มีนั้นแล้ว ให้หนูแผ่เมตตา แผ่พลังนี้ให้กับตัวเองก่อนค่ะ ให้หนูอธิษฐานว่าด้วยพลังแห่งการช่วยเหลือผู้คนด้วยความรักและเมตตานี้ส่งพลังให้เซลล์ทุกอณูของหนูแข็งแรง มีสุขภาพดีและยืนยาว และนึกถึงตัวเองตอนหน้าใสสุขภาพดีด้วยค่ะ นึกภาพนั้นให้แจ่มชัดค่ะ ขอบคุณร่างกายของหนูที่ได้ทำให้หนูได้มีโอกาสช่วยเหลือคนให้มีสุขภาพดีค่ะ ให้หนูทำแบบนี้ทุกวันก่อนนอนนะคะ ไม่ว่าจะนอนเวลาไหนก็ตามค่ะ 

อันนี้สำคัญค่ะ ทำทุกวันนะคะ...ร่วมไปกับการดูแลสุขภาพส่วนอื่น ๆ ค่ะ

สรุปว่าพี่จะให้หนูเริ่มตรงไหนนะคะ

Step ปกติที่พี่สรุปได้จากเคสทั้งหมดที่พี่ดูแลมาจะเป็นแบบนี้ค่ะ

1. ปรับชีวิตให้ใกล้เคียงนาฬิกาชีวิ
2. ล้างลำไส้ให้สะอาดที่สุดและปรับอาหารตามที่แนะนำในคู่มือเป็นเวลา เดือน
3. ทาน probiotics + prebiotics (เส้นใยจากผักผลไม้ไม่หวาน ธัญพืช และข้าวกล้องทุกวันในเดือนที่ 2
4. ล้างพิษตับ ล้างนิ่วในตับและถุงน้ำดี

สำคัญที่สุด ฝึกปล่อยวางตั้งแต่เริ่มรักษาสิว เพราะคุณจะเจอแรงต้านมากมายมหาศาลและอาจต้องให้ผ่านพ้นช่วงขับพิษไปโดยลำพังคนเดียว

ส่วนที่หนูจะต้องโฟกัสช่วงแรกนี้เป็นพิเศษคือ
  1. การล้างพิษผิวด้วยเวชสำอาง 
  2. การล้างพิษลำไส้และปรับสุขภาพลำไส้ให้สุขภาพดีค่ะ (ปรับแก้เรื่องท้องผูก ลองทำตามนี้นะจ๊ะ  http://mbhknowledgebase.blogspot.com/2012/08/blog-post.html)
  3. บำรุงรักษาตับให้มีสุขภาพดีเสมอค่ะ แต่ให้ผ่านการล้างพิษตับไปก่อนค่ะ
  4. นวดจับเส้น และอบซาวน่า/สมุนไพร/สตีม เพื่อให้เลือดลมไม่ติดขัดค่ะ (หาหมอนวดเก่ง ๆนะคะ พี่พึ่งนวดกับหมอจับเส้นเก่งมากไปเมื่อวานค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่เจอฝีมือแบบนี้ค่ะ ตอนนี้เส้นที่ติดคลายแล้วค่ะ นอนหลับสนิทดีมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าหมอไม่เก่งจริง เขาทำไม่ได้ค่ะ และหนูจำเป็นต้องนวดด้วยค่ะ)
พี่ตอบคำถามเลยนะคะ

- หนูควรเริ่มต้นในการปฏิบัติตนยังไงบ้างคะ ตอนนี้เริ่มทำตามข้อมูลพื้นฐานในส่วนที่หนึ่งของคู่มือบ้างแล้ว แต่ยังไม่ครบถ้วน ก็ทำตามที่ทำได้ค่ะ บางอย่างที่ทำไม่ได้เช่นเรื่องเวลานอนที่สำคัญนี่เลือกไม่ได้จริงๆค่ะ
ตามที่พี่แนะนำข้างต้นค่ะ ทำส่วนอื่นก่อนค่ะ ไว้ค่อยว่ากันใหม่กับส่วนที่เหลือนะคะ

- อยากให้แนะนำผลิตภัณฑ์ที่ควรเริ่มใช้ค่ะ เพราะว่าหนูรู้สึกว่าตั้งแต่หน้าเป็นผื่น และสิวขึ้นครั้งนี้มันเยอะมากๆ มากกว่าที่เคยเป็นทำให้ตกใจและรู้สึกแย่ จึงเริ่มหาผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าใช้แล้วดีไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าหน้าคงปรับสภาพตามไม่ทันผลิตภัณฑ์ที่เราใช้เป็นแน่....  ตอนนี้จึงใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน (ตามข้อที่ 23 )  
สิวของหนูตอนนี้เป็นผลมาจากผิวเจอสารอย่างที่พี่อธิบายไปนะคะ พี่ยังไม่ค่อยอยากให้หนูใช้อะไรเยอะค่ะ เอางี้นะคะ พี่่ขอแนะนำแค่เจลล้างหน้า Acne-Aid Liquid Cleanser หากหนูต้องการเปลี่ยนตัวล้างหน้า ใช้กับมาส์กสาหร่ายค่ะ แค่ 2 ตัวก่อนก็พอค่ะ และเน้นไปที่การล้างระบบภายในค่ะ

ตัวที่แนะนำให้ทานนะคะ
  1. CLEAN
  2. ชามะเขือพวง
  3. สมุนไพรกระเจี๊ยบแดง
แค่ 3 ตัวนี้ก่อนสำหรับเดือนแรกค่ะ

นอกเหนือจากนี้หนูต้องปรับระบบด้วยตัวเองจ่ะ

-  ขณะใช้ผลิตภัณฑ์ของ Marry beam สามารถไปทำทรีตเมนต์หน้าได้หรือไม่ (ซื้อคอร์สของ Oriental beauty ไว้แล้วยังไม่หมดค่ะ เป็นคอร์สลงวิตามินโดยใช้เครื่อง enhancer กับตัวมาส์กหน้าค่ะ

หนูยังไม่จำเป็นต้องบำรุงอะไรนะคะ คือ ผิวตอนนี้ของหนูยังทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องพักผิวและฟื้นฟูผิวจากสารเคมีตกค้างค่ะ ลองถามเขาว่าเก็บไว้ก่อนได้มั้ยนะคะ ไว้ผิวดีแล้วค่อยไปทำดีกว่าค่ะ แต่ถ้ามาส์กของเขามีคุณสมบัติล้างพิษผิว ก็ทำได้ค่ะ อันนี้หนูต้องไปถามรายละเอียดเขาเองค่ะ

- ขณะใช้ผลิตภัณฑ์ของ Marry beam สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติหรือไม่

แต่งหน้าได้ค่ะ แต่อย่างที่พี่แจ้งไปคือผิวของหนูตอนนี้ไม่เหมาะที่จะลงอะไรเยอะค่ะ ถ้าหนูจะแต่ง ก็เลือกเครื่องสำอางที่ดีนะคะ ไม่อุดตัน ไม่มีน้ำหอม ไม่ก่ออาการระคายเคืองหรือแพ้ค่ะ และตัวที่ล้างเครื่องสำอางก็ขอให้อ่อนโยนแต่รอบเดียวหมดไม่ต้องซ้ำหลายรอบน่ะค่ะ เพราะผิวของหนูอ่อนแออยู่ ถูกรบกวนมากๆ ไม่ดีค่ะ

มีคำถามเพิ่มเติมก็สอบถามกลับมานะคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
พีบีม








วิธีปรับสร้างลมและพลังสำหรับช่วยขับถ่าย (ท้องผูก)


วันนี้บีมหาเวลาเคลียร์เคสลูกค้าให้หมดค่ะ เพราะอยากเขียนหนังสือแล้วจ้า ตั้งใจจะเขียนตั้งแต่วันที่ 15 เป็นต้นไปค่ะ

แล้วมีท่านหนึ่งที่บีมเห็นว่าปัญหาสำคัญคือ ท้องผูก ค่ะ และจากประสบการณ์ของบีม ปัญหานี้ต้องถูกแก้ไขก่อนค่ะ แล้วปัญหาอื่น ๆ จึงจะแก้ได้ง่ายมากขึ้น

บีมจึงเรียบเรียงข้อมูลให้ดังนี้นะคะ เพื่อให้คนที่ท้องผูกได้ลองปรับและทำตามดูค่ะ ได้ผลยังไงก็มาบอกเล่ากันนะคะ

ป.ล. ชื่อที่ใช้เป็นนามสมมตินะคะ

การปรับสุขภาพลำไส้เรื่องที่สำคัญคือ

1.     การนอนหลับ เข้านอน 3 ทุ่มและหลับก่อน 5 ทุ่มให้ได้ค่ะ ค่อย ๆ ปรับค่ะ ถ้าพิษน้อยลง และเราปล่อยวางและเย็นลง มันจะนอนได้เองค่ะ บีมพิสูจน์แล้ว และพยายามอย่าเล่นเน็ตหรือทำอะไรที่กระตุ้นให้จิตตื่นช่วงหัวค่ำค่ะ และพอง่วง ๆ ให้เข้านอนเลยค่ะ ห้ามฝืน เพราะถ้าฝืนปุ๊บ ร่างกายจะเริ่มไปดึงพลังงานสำรองที่เก็บที่ตับมาใช้ค่ะ จะทำให้ตับร้อนค่ะ อันนี้หนังสือแผนไทย แผนจีนเขียนเอาไว้หมดค่ะ เป็นเรื่องพื้นฐานสุขภาพเลย พอตับร้อน คุณเอก็จะมีภาวะร้อนเกินตามมา ทานอาหารอะไรก็ไม่ค่อยย่อย ยิ่งพวกไขมันยิ่งไม่ย่อยค่ะ ตับมีปัญหาหน้าจะแพ้อะไรง่าย สิวจะแดงค่ะ เลือดลมเดินไม่ดี สารพัดปัญหาเลยค่ะ เพราะตับคือแหล่งกระจายชี่เลือดค่ะ แต่บีมเห็นเล็บคุณเอสุขภาพดีมาก ๆ ยังไงก็ดูแลตัวเองให้ดีนะคะ เพราะบางทีตับเราอาจพลังหมดแล้วแต่ไปดึงมาจากไตแทนค่ะ ถ้าดึงจากไตมาหมดแล้ว ผมจะหงอกแล้วคราวนี้ (แก่ก่อนวัยค่ะ) อ้อ...การนอนเร็วจะทำให้พลังงานรวมเรามากขึ้นค่ะ ยิ่งหลับสนิทถึงเช้าจะทำให้พลังเบ่งมีมากขึ้นค่ะ แต่อันนี้ต้องใช้เวลาและปัจจัยอื่น ๆ ที่จะกล่าวตามมานะคะ
2.     อาหาร ให้ทานอาหารที่ย่อยง่าย ผักผลไม้ไม่หวานและมีเส้นใยมาก ๆ ค่ะ ผลไม้ที่บีมว่ามันเวิร์คกับหลายคน คือ แก้วมังกรสีไหนก็ได้ค่ะ ทั้งฤทธิ์เย็นและใยอาหารสูง ลูกพรุน น้ำสำรอง ทานพวกสับปะรดค่ะ ร่างกายร้อนเกินยังไม่ควรทานมะละกอค่ะ เพราะมันออกร้อนค่ะ ท่องว่า ข้าวไม่ขัดสีหุงนิ่มหรือข้าวต้ม ถั่ว งา ผักผลไม้ไม่หวาน และน้ำมันสกัดเย็น (ถ้าทานแล้วไม่เรอเปรี้ยว กรดไม่ไหลย้อนหรือปวดไมเกรนค่ะ อาการเหล่านี้แสดงว่าร่างกายย่อยไขมันไม่ได้ค่ะ)
3.     ปรับการดื่มน้ำ ให้ดื่มแค่น้ำอุ่นหรือน้ำเปล่าอุณหภูมิพอ ๆ กับร่างกายเท่านั้นค่ะ อย่างอื่นงดไปก่อนค่ะ ถ้าร้อนในแบบทนไม่ได้ กระหายน้ำ การทานผลไม้ฤทธิ์เย็น เช่น ชมพู่ แก้วมังกร แตงโมจะช่วยได้ค่ะ หรือถ้าร้อนมาก ๆ ก็ดื่มน้ำย่านางสกัดเย็นค่ะ หรือแบบคั้นแล้วไม่เติมน้ำแข็งและน้ำตาลค่ะ
4.     ความใจเย็นและหมั่น Dtox จิตใจทุกวัน คุณเอดูเป็นคนใจร้อนและทำอะไรเร็วค่ะ ตรงนี้จะทำให้ระบบฮอร์โมนค่อนข้างแปรปรวนค่ะ ส่วนหนึ่งมาจากพิษสะสมด้วยค่ะ ตับร้อนด้วย มันเกี่ยวกันหมดค่ะ ซึ่งการทำอะไรเร่ง ๆ รีบร้อน มักทำให้เราเครียดได้ค่ะ เครียดแบบไม่รู้ตัว ให้ฝึกหายใจเข้าออกช้า ๆ ค่ะ ฝึกจนเป็นนิสัยจะพอช่วยได้ค่ะ พอเก่ง ๆ แล้วก็ลองฝึกนั่งสมาธิดูนะคะ แต่คนเราจริตต่างกันค่ะ บางคนก็ใช้ดนตรีบรรเลงบางประเภทช่วยให้เข้าถึงสมาธิได้ค่ะ อันนี้แล้วแต่คนค่ะ แต่ขอให้ฝึกเข้าไปดูจิตของตัวเราเองให้เป็นค่ะ ว่าเรากำลังเป็นอะไร สุข ทุกข์กับอะไร เราเกลียดใคร เรากำลังกลุ้มอะไร เรารีบทำอะไร ฯลฯ หมั่นดูทุกวัน วันละ 5 นาทีก็ยังดีค่ะ ไว้คุณเอฝึกก่อนค่ะ อันนี้พูดง่ายแต่อาจทำยากค่ะสำหรับคนไม่ชิน ไว้ถ้าคุณเอทำพื้นฐานได้แล้ว และสนใจจะทำต่อไปขั้นสูงขึ้นเพื่อให้จิตสงบและเย็นกว่านี้ ก็บอกได้ค่ะ บีมจะแนะนำให้ได้อยู่การออกกำลังกาย พยายามหาท่ากายบริหารหรือออกกำลังที่ทำให้หน้าท้องได้เคลื่อนไหวค่ะ นกที่เป็นที่ปรึกษาอีกท่านของเรา ไปเต้น Belly Dance ค่ะ ซึ่งอันนี้ก็ดีมาก ๆ ค่ะ คุณเอน่าจะชอบนะคะ ดูน่าจะชอบอะไรสนุกสนานอยู่ค่ะ ได้ทำอะไรเหนื่อย ๆ มีเสียงเพลง น่าจะได้ปลดปล่อยพลังดีค่ะ บางทีที่คุณเอใจร้อน อาจจะเป็นเพราะพลังสะสมมากไปค่ะ การทำกิจกรรมแต่ละวันไม่เหมาะกับพลังงานที่ตัวเองมีค่ะ

ทุกเช้า ตื่นมาดื่มน้ำให้ได้มาก ๆ ค่ะ อาจเล่นฮูล่าฮูปด้วย วิ่งเหยาะ ๆ แถวบ้านด้วยค่ะ แล้วกดแถวร่องจมูกค่ะ ถ้ากดถูก นิ้วเราจะรู้สึกถึงแรงตุ้บ ๆ ๆ ค่ะ นั่นคือเส้นลมปราณลำไส้ค่ะ บีมเอามาจากแผนจีนค่ะ เอามาใช้หลายทีแล้วเห็นผลดีค่ะ คนที่ลองเอาไปใช้ก็บอกมาเช่นนี้ค่ะ ลองดูนะคะ กดบ่อย ๆ จะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ค่ะ กดสัก 5 วินาทีแล้วปล่อย ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆค่ะ  

เอาจุดนี้ให้ผ่านก่อนนะคะ แล้วทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้นเป็นลำดับนะคะ

อีกรอบนะคะ ทำตามที่แนะนำในบทที่ 1 ได้ทุกข้อเลยนะคะ 

http://www.marrybeamholistic.com/product-category/185236/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3.html

ลืมบอกค่ะ ไปนวดจับเส้นกับหมอเก่ง ๆ ด้วยนะคะ เส้นคลายดีแล้วจะช่วยได้มากค่ะ เลือดลมจะวิ่งช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้เช่นกันค่ะ วันนี้มีหมอเก่งมากมานวดให้บีมค่ะ เลยถือโอกาสเก็บความรู้จากเขาน่ะค่ะ นวดช่วยได้จริงค่ะ

บีม