Sauna กับ อบไอน้ำอันใหนดีกว่ากัน แล้วแต่ละครั้งที่ทำควรใช้เวลาเท่าไหร่คะ แล้วสองอย่างที่ว่านี้ดีกว่าการใช้ยาหรือสมุนไพรล้างพิษหรือเปล่าคะ

Sauna กับ อบไอน้ำอันใหนดีกว่ากัน แล้วแต่ละครั้งที่ทำควรใช้เวลาเท่าไหร่คะ แล้วสองอย่างที่ว่านี้ดีกว่าการใช้ยาหรือสมุนไพรล้างพิษหรือเปล่าคะ

ตอบ Sauna กับ อบไอน้ำ บีมว่าแล้วแต่คนชอบนะคะ บีมยังไม่ได้ค้นข้อมูลเพิ่มเติมว่าเขาส่งผลต่อร่างกายต่างกันอย่างไร แต่บีมมองว่าได้ผลดีไม่ต่างกันค่ะ แต่สำหรับบีม จะชอบอบไอน้ำมากกว่าค่ะ มองว่าการอบไอน้ำน่าจะเหมือนกับการอบสมุนไพรที่น้ำจะพาโมเลกุลของสารสกัดในสมุนไพรให้เข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังและทางลมหายใจด้วยค่ะ น้ำเป็นตัวนำพาสารเข้าสู่เซลล์ได้ดีค่ะ

แต่การอบซาวน่านั้น บีมจะชอบอบเพราะจะวัดว่าระบบต่อมเหงื่อเราดีอยู่มั้ย ยิ่งใช้เวลานานกว่าเหงื่อจะออก แสดงว่าระบบกำจัดของเสียของเราทางผิวหนังค่อนข้างแย่ค่ะ ทำให้พิษสะสมที่ผิวหนังและระบบภายในเยอะ เพราะผิวหนังไม่ช่วยระบายออก ถ้าแค่ 5-10 นาทีแล้วเหงื่อออก บีมก็มั่นใจว่าระบบกำจัดของเสียเรายังดีอยู่ค่ะ

แต่ละครั้งที่ทำนั้น ถ้าจากแผ่นพับหรือเอกสารที่แนะนำที่บีมเคยอ่านนะคะ เขาจะแนะนำว่าให้ทำเป็นช่วง ๆ ค่ะ่่ ช่วงละ 15 นาที แล้วออกมาพัก หรือบางคนจะอาบน้ำเย็นเลยค่ะ เพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง (ร้อนมาเย็นเลยน่ะค่ะ) แต่บีมจะชอบนั่งสบาย ๆ ให้ร่างกายเขาผ่อนเองก่อนใน 2 ยกแรกค่ะ เพราะของเสียกำลังถูกขับออกทางผิวหนัง บีมไม่อยากไปปิดทางเขาน่ะค่ะ

แนะนำว่าทำไม่ควรเกิน 4 ยกค่ะ ซึ่งจะใช้เวลาพักระหว่างยกมากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเราค่ะ

และไม่ควรทำเมื่อเรานอนน้อย เวียนหัว มีโรคหัวใจ เพราะอาจทำให้หน้ามืดและเป็นลมได้ค่ะ เพราะระหว่างที่ทำนั้นหัวใจจะเต้นแรงและเร็วขึ้น ถ้าเลือดน้อยหรือเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เขาจะไม่ไหวค่ะ เลือดเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ไม่ทัน (บีมเคยเ็ป็นน่ะค่ะ เลยจะเตือนเอาไว้)

สรุปว่า ทำเท่าที่เราทำได้ค่ะ ห้ามฝืน ต้องฟังร่างกาย และระหว่างยกต้องดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำไม่เย็น หรือน้ำสมุนไพรครั้งละ 2-3 แก้วเพื่อช่วยเติมน้ำให้ร่างกายด้วยค่ะ

การใช้สมุนไพรล้างพิษนั้นเป็นการช่วยให้ร่างกายขับพิษออกจากระบบทางเดินอาหารค่ะ แต่ไม่ได้กระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียน และไม่กระตุ้นให้ผิวหนังขับของเสียเหมือนอย่างการอบซาวน่าหรือสตีมค่ะ

ทำไปหลาย ๆ วิธี ช่วยให้ร่างกายขับอออกหลาย ๆ ทางจะดีกว่ามาก ๆ ค่ะ