Sunday, July 29, 2012

แชร์ผลการใช้น้ำสกัดผสม probiotics และเกร็ดความรู้เรื่อง probiotics เพิ่มเติม



หลังจากที่บีม พี่แม็ค และแม่ได้ทานน้ำสกัดเห็ดภู่มาลาซึ่งมีโพรไบโอติคส์ ผลิตภัณฑ์นี้ผ่านงานวิจัยและจำหน่ายมาได้สักหลายปีแล้วค่ะ ซึ่งบีมได้ซื้อทานครั้งแรกเมื่อ 2-3 ปีก่อนได้ รู้จักเขาผ่านทางนิตยสารเช่นกันค่ะ ตอนนั้นก็สั่งมาทานกับแม่ แต่ตอนนั้นมีแค่ไม่กี่สูตรค่ะ ไม่มีสูตรน้ำเห็ดภู่มาลา ซึ่งก่อนที่บีมจะสั่งซื้อบีมก็ถามมาเผื่อทุกคนด้วยว่า สูตรไหนช่วยเรื่องสิวบ้างมั้ย เขาก็บอกว่าสูตรนี้แหละค่ะ คนท้องก็ทานได้ คนนอนไม่หลับเช่นแม่ก็ทานได้ค่ะ สูตรนี้แพงมากเลย ขายปลีกขวดละ 1,800 บาท ราคาขายส่งก็สูงไม่แพ้กันค่ะ บีมสั่งมาโหลนึงนะ คือ เน้นมาทานกันในครอบครัว และให้น้องยุ้ย (โครงการรักษารักษาสิวฟรีของเรา) ไป 1 ขวดค่ะ

จริง ๆ แล้วบีมสั่งอีกสูตรมา 1 โหลด้วย อันนั้นจะถูกหน่อยค่ะ 600 บาท ที่สั่งมาเพราะตอนแรกบีมคิดว่าจะทานสูตรนี้แหละ เพราะเคยทานเมื่อท้องที่แล้วค่ะ แล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีผลร้ายอะไรกับการตั้งครรภ์

คือ บริษัทนี้และผลิตภัณฑ์นี้เขาผ่านงานวิจัยจากทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาแล้วค่ะ และเขาขายมาได้หลายปี ออกบู้ทงานสุขภาพที่กรุงเทพฯ บ่อย ๆ เช่นกันค่ะ

ที่สำคัญ คือ กินแล้วมันเห็นผลเร็วและดีจริงค่ะ เพราะเจ้าจุลินทรีย์ที่เขาใส่ในน้ำสมุนไพรสกัดนี้เป็นสายพันธุ์ที่คัดมาแล้วและมีปริมาณเข้มข้น น้ำก็ดื่มง่ายค่ะ รสชาติดีทีเดียว

แม่บีมเขาติดใจผลการทานตั้งแต่ครั้งแรกเลย เพราะเขาบอกว่าหายปวดเข่าและทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น แต่ตัวบีมเองไม่ได้สั่งมาให้เขาอีกจนกระทั่งตอนนี้ล่ะค่ะ

เหตุผลที่บีมสั่งผลิตภัณฑ์นี้มาเพราะ

  1. น้ำเอ็นไซม์สูตร ดร.รสสุคนธ์ที่เคยจำหน่ายอยู่หมดแล้ว และบีมไม่แน่ใจว่าสูตรนั้นคนท้องจะทานได้ไหม เพราะสูตรของบริษัทนี้บีมทานได้แน่นอนค่ะ เคยทานมาแล้ว
  2. ที่มั่นใจจะทานตอนท้องก็เพราะ บีมรู้ว่าตอนท้องมันจะค่อนข้างมีปัญหาเรื่องขับถ่าย แต่ท้องนี้บีมตั้งใจว่าจะลองไม่ทาน CLEAN ดูค่ะ คือ อยากให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด ก็เลยตัดสินใจสั่งตัวนี้มาทานควบคู่ไปกับการทานผักผลไม้เลี้ยงเขาเยอะ ๆ ค่ะ
  3. ที่ไม่ทานโยเกิร์ตทั่วไปเนื่องจากอ่านหนังสือ นม...มัจจุราชเงียบ แล้วบีมเข้าใจว่าโยเกิร์ตก็มาจากนมวัวนั่นแหละ บีมทานก็รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวทุกครั้ง เลยขอทานอะไรที่สบายใจดีกว่า
  4. บีมได้อ่านหนังสือเรื่อง The Probiotics Revolution เขียนโดย Gary B.Huffnagle และ Sarah Wernick และแปลโดยคุณบุญส่ง รักวิริยะ ยังอ่านไม่จบดีค่ะ ทำให้ได้ทราบประโยชน์อันมากมายของเจ้าจุลินทรีย์ตัวน้อยเหล่านี้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญเขามีงานวิจัยรองรับว่าดีต่อคนท้องด้วยค่ะ คือ ท้องนี้เป็นท้องที่บีมมีอาการกลับตาลปัตรหน่อยนึงจากชีวิตปกติ ปกติจะชอบทานข้าวกล้อง ท้องนี้จะทานข้าวนี้แล้วฝืดคอ กลืนไม่ค่อยลง แต่ก็ทานนะคะ รายการอาหารกินได้จะเป็นพวก ผัดซีอิ้ว ผัดผักบุ้ง ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย อะไรแบบนี้น่ะค่ะ จะทานได้เยอะเลย และบีมก็ไม่อยากให้สิวขึ้นตอนท้องเยอะ ๆ เสียด้วยค่ะ เลยต้องหาวิธีดูแลตัวเองไปด้วยค่ะ เพราะบีมก็ไม่อยากให้ลูกอดเพราะหิวข้าว คือ กินอะไรได้กินไปก่อนค่ะ แต่บีมกินเป็นอาหารนะคะ ไม่ได้กินพวกขนมนมเนยอะไรที่ไม่มีประโยชน์และทำให้อ้วนค่ะ ไว้ค่อยเขียนเรื่องการดูแลตัวเองตอนตั้งครรภ์อีกทีนะคะ
  5. เอามาให้น้องยุ้ยด้วยค่ะ เพราะดูแล้วว่าน้องน่าจะมีปัญหา Leaky Gut Syndrome และมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ไม่พอค่ะ
  6. เอามาให้น้องแคนดี้ทานเพิ่มจุลินทรีย์ในลำไส้ เพิ่มภูมิต้านทานโรคค่ะ
รายงานผลการทานของคน 3 คนในครอบครัวก่อนค่ะ

บีม - ทานได้เพียงวันละ 5 cc ตอนเช้าหลังตื่นนอน และดื่มน้ำตามตามปกติค่ะ วันแรกตื่นมาทานตี 3 ค่ะ เพราะลุกมาเข้าห้องน้ำตอนนั้นพอดี ไม่คิดว่า 5 cc จะทำอะไรได้ แต่่วันแรกถ่ายแบบมีกลิ่นเลย 3 ครั้งค่ะ แต่ไม่ปวดบิด เมื่อวาน 2 ครั้งแบบมีกลิ่น ไม่ปวดบิด ของเสียสีดำเช่นกันค่ะ

พี่แม็ค - บีมให้ทาน 30 cc เพราะเขาตัวใหญ่ (ลำไส้ต้องใหญ่และยาวตามไปด้วยค่ะ) และเขาต้องการเจ้าจุลินทรีย์นี้มากกว่าบีม บีมรู้ว่าพี่เขามีปัญหาที่ลำไส้แน่ค่ะด้วยสัญญาณหลายอย่าง และมีโรคผิวหนังเรื้อรังอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่สิวค่ะ บีมรู้ว่ามันเกี่ยวข้องกันค่ะ ก็บอกให้เขาทานต่อเนื่องจนกว่าจะหายค่ะ เขาเป็นคนเข้าห้องน้ำบ่อยอยู่แล้วเป็นปกติของเขา (แต่ไม่ใช่อาการปกตินะคะ) ผลคือ เขาถ่ายมากขึ้นค่ะทั้งที่ไม่ได้ทานเผ็ดอะไรเลย

แม่ - ปกติแม่เป็นคนท้องผูกมาก ๆ เลยค่ะ ทานผักผลไม้น้อย ถ่ายแต่ละครั้งก็มานิดเดียว ๆ บีมให้แม่ทาน 30 cc เท่าพี่แม็คค่ะ คือ เขา 2 คนนี้บีมให้ทาน 2 เวลาเลย แต่เดี๋ยวขอเช็คข้อมูลอีกทีว่าได้ไหม เช้าหลังทานวันแรกยังไม่รู้สึกอะไรค่ะ แต่วันนี้คือเช้าวันที่ 2 หลังทาน แม่บอกเองว่า ของเสียมีกลิ่นเหม็นมากเลยค่ะ เขาบอกปกติไม่เป็นแบบนี้ จากประสบการณ์ของบีม นี่ล่ะค่ะ ใช่เลย จุลินทรีย์น้อยเขาทำงานแล้ว เร็วดีเหมือนกัน

จะสังเกตว่า ถ้าลำไส้ของบีม วันแรกทานและทานปริมาณน้อยก็เห็นผลเลยนะคะ แต่ถ้าอย่างพี่แม็คกับแม่  คือจะดูแลสุขภาพน้อยกว่าบีม พี่แม็คไม่เคยสวนลำไส้ แม่ท้องผูก แต่เคยสวนบ้าง ก็ต้องใช้ปริมาณเยอะกว่าค่ะ จึงจะเห็นผลดี

วันนี้เอาเท่านี้ก่อนนะคะ ยังไงลองไปศึกษาเรื่อง Probiotics กันเพิ่มเติมดู แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของบีมและบางส่วนของเพื่อน ๆ MB เจ้าตัวนี้ช่วยเรื่องสิวและผิวได้จริง ๆ ค่ะ

วิธีการรับหรือทาน probiotics เพื่อผลลัพธ์สูงสุด
  1. ล้างลำไส้ให้สะอาดก่อน ไล่ของเสียออกไปเยอะ ๆ ก่อน จะเห็นผลเร็วกว่า
  2. ช่วงทาน probiotics ห้ามสวนลำไส้หรือทานสมุนไพรช่วยระบาย เพราะถ้าล้างหรือสวนลำไส้ จุลินทรีย์ตัวที่ดีกับไม่ดีจะออกไปหมดพร้อมของเสียเลยทีเดียว ทานเข้าไปก็สูญเปล่า
  3. เมื่อเริ่มทานแล้วจะต้องปรับอาหารให้มีผักผลไม้และใยอาหารมากขึ้นเพราะใยอาหารที่ร่างกายย่อยไม่ได้นี้ คือ อาหารหล่อเลี้ยงจุลินทรีย์ที่ดีเหล่านี้ให้เติบโต และไม่ทานอาหารประเภท เนื้อ นม ไข่ หรืออาหารที่ทานไปแล้วจะกลายสภาวะเป็นกรด (ผักผลไม้ส่วนใหญ่จะเป็นด่าง) เพราะสิ่งเหล่านั้นจะทำให้ลำไส้แปรสภาพเป็นที่อยู่ของพวกที่ไม่ดีมากกว่า 
สิ่งที่เราควรทราบค่ะ ร่างกายเรามีทั้งจุลชีพทั้งที่ดีและไม่ดีอยู่ด้วยกัน ถ้าหากเราสามารถปรับสมดุลร่างกายไม่ให้ร้อนเกิน ไม่ให้เป็นกรดมากกว่า 20% และทานอาหารที่ดี ที่เหมาะกับร่างกายของมนุษย์จริง ๆ จุลินทรีย์ที่เราทานเข้าไปจะเติบโตและคอยเป็นทหารช่วยรักษา ปกป้อง คุ้มครองให้ลำไส้ของเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและกำจัดของเสียออกได้หมดจดทุก ๆ วัน 

หากสภาพผิวและสุขภาพปรับสมดุลดีแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องทานหรือรับเขาเข้าไปตลอดไป เพราะเขาเติบโตได้ เราแค่เพียงต้องดูแลเขาให้ดีเท่านั้น

ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเริ่มเสียสมดุลอีก ตัวไม่ดีก็กลับมามีอำนาจเหนือกว่าอีก เมื่อนั้นสุขภาพและผิวก็แย่อีกค่ะ

สมดุลคือหัวใจค่ะ

ป.ล. หากว่าใครจะลองทาน probiotics ราคาสบายกระเป๋า ลองนมหมักบัวหิมะก่อนได้นะคะ พี่กานต์มีจ๊ะ http://www.facebook.com/KefirByRunRak

ไม่แนะนำให้หมักกับนมวัวค่ะ คนเป็นสิวให้เปลี่ยนเป็นหมักกับ
  1. นมแพะ 
  2. นมธัญพืช นมข้าว เป็นต้น
  3. น้ำมะพร้าว (บางคนก็มีข้อมูลแย้งว่าไม่ดีค่ะ ยังไงลองไปค้นหาข้อมูลดูเพิ่มนะคะ พอดีบีมเคยหาข้อมูลมาแล้วลองทำ มันก็โอเคค่ะ)
3 ตัวนี้แชร์จากประสบการณ์นะคะ คือ บีมไม่กินนมวัวอยู่แล้ว เคยกินแบบที่หมักนมวัวแล้วสิวขึ้นค่ะ

สำหรับคนที่ทานแล้วไม่เห็นผลดี คือ 
  1. ไม่เคยล้างลำไส้มาก่อน
  2. ช่วงทานไม่ปรับอาหาร ทำให้จุลินทรีย์ขาดอาหาร ก็อยู่ไม่ได้
  3. ไม่ถูกกับสายพันธุ์ที่รับเข้าไป
ระยะเวลาเห็นผล ควรให้เวลาตัวเองในการล้างลำไส้สัก 2 สัปดาห์ - 1 เดือน แล้วหลังจากนั้นทานจุลินทรีย์โดยห้ามล้างลำไส้อีกประมาณ 1-2 เดือนแล้วลองหยุดทานผลิตภัณฑ์ดูว่าถ้าไม่ทานแล้วเขาปรับตัวให้ดีขึ้นได้หรือยัง สิวยังขึ้นง่ายอยู่ไหม ภูมิแพ้หายไปไหม ผิวยังแพ้ง่ายหรือไม่ 

แต่ระหว่างนั้นต้องปรับสมดุลร่างกาย อย่าให้เครียด อย่าให้ร้อน อย่าให้เป็นกรดมากไป และสำคัญคือ อาหาร เน้นผักผลไม้มาก ๆ ข้าวกล้อง ธัญพืช "ข้าว ถั่ว งา ผัก ผลไม้ น้ำมันสกัดเย็น" เท่านี้ก็เพียงพอค่ะ ใครกลัวผอมก็ทานข้าว ถั่ว งา เยอะหน่อย เท่านั้นเอง ให้เพียงพอกับพลังงานของร่างกายแต่ละวันที่ใช้ วัดจากความรู้สึกคือไม่โหยหิวค่ะ พลังเต็ม

แบ่งปันกันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้และเรื่อง probiotics เท่านี้ก่อนนะคะ

ขอให้ผิวสุขภาพดีเป็นของทุกคนค่ะ
บีม

0 comments:

Post a Comment

ถามคำถามหรือฝากคอมเม้นต์ของคุณได้ที่นี่ค่ะ